Mercedes-Benz CLA รุ่นใหม่ แสดงให้เห็นถึงเอกลักษณ์เฉพาะและการตีความที่ท้าทายในการออกแบบของ เมอร์เซเดส-เบนซ์ ในยุคแรกเริ่ม Coupé 4 ประตูคือคำบรรยายที่ชัดเจนของ Avantgarde โดยมีความเป็นสปอร์ตในเซ็กเมนต์พิเศษเฉพาะนี้
ตารางราคา Mercedes-Benz CLA-Class (เมอร์เซเดส-เบนซ์ ซีแอลเอ-คลาส)
ยี่ห้อ/รุ่น | เครื่องยนต์ | แรงม้า | เกียร์/ขับเคลื่อน | ราคาจำหน่าย(บาท) |
Mercedes-Benz CLA-Class CLA250 AMG Sport | 1991 C.C. I4 DOHC | 211 | 7AT/FF | 2,640,000 |
กระจังหน้าเดี่ยวตัวล่างและกระจังหน้าเสริมลาย Diamond ที่ทำให้ท่านเร้าใจตั้งแต่เริ่มออกตัว เส้นแนวหลังคาที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะของ Coupé และเส้นแนวใต้กระจกที่อยู่ในระดับสูง พร้อมทั้งการเน้นแนวคลื่นด้านข้างทั้งสอง ส่งผลให้ได้ภาพลักษณ์ที่ดูปราดเปรียวเพรียวลม และด้วยการปรับแต่งอื่นๆ จึงทำให้คุณสมบัติต้านทานอากาศ และรูปทรงที่สมบูรณ์แบบของ CLA รุ่นใหม่มีความโดดเด่นเหนือรถยนต์ในรุ่นเดียวกัน
จากลักษณะภายนอกรถที่ดูเป็นสปอร์ตจึงมีการนำไปใช้กับภายในรถโดยใช้เส้นสายแนวนอนที่ช่วย ดึงดูดสายตา องค์ประกอบที่สำคัญด้านการออกแบบอย่างต่อเนื่อง เช่น เส้นสายด้านข้างที่พลิ้วไหว บนแผงประตูสร้างจุดเชื่อมต่อระหว่างภายนอกและภายในรถได้อย่างกลมกลืนการคัดสรรใช้วัสดุคุณภาพสูงด้วยความพิถีพิถันและฝีมือที่ประณีตทำให้มั่นใจได้ว่ายนตรกรรมคันนี้ตรงตามคำจำกัดความ ของ Coupé ที่เฉียบคมได้โดยแท้จริง
ภายนอก
ทันทีที่ CLA รุ่นใหม่เปิดตัวไปไม่นาน ก็ได้สร้างความสนใจได้เป็นอย่างมาก ซึ่งจากการออกแบบ ด้วยแนวคิดสร้างสรรค์ใหม่ จึงให้มิติที่แสดงออกถึงรูปทรงสไตล์ Coupé ที่ดูพลิ้วไหว
ด้านข้างที่เฉียบคม และส่วนท้ายที่ลาดต่ำลงเต็มเปี่ยมด้วยพละกำลัง ไม่ใช่ทุกคนที่จะมองเห็นถึง รายละเอียดของ Avantgarde แต่สำหรับคนที่มองเห็นจะประทับใจกับการตกแต่งอย่างละเอียดประณีตที่ไม่เหมือนใครซึ่งเป็น เอกลักษณ์อันโดดเด่นที่รังสรรค์โดยเมอร์เซเดส-เบนซ์ ทำให้เกิดความแตกต่างจากมาตรฐานระดับกลาง ความแปลกใหม่และความตื่นเต้นเร้าใจที่ดึงดูด สายตาด้วยความท้าทาย ตั้งแต่ครั้งแรกที่เห็น
ภายใน
ปฏิเสธที่จะยอมจำนนต่อความเป็นเลิศคือคุณสมบัติของ CLA ใหม่ที่เกิดขึ้น และสะท้อนให้เห็น จากภายในที่มีความโดดเด่นไม่เหมือนใคร
ช่องลมแบบไดนามิคได้รับแรงบันดาลใจจากรูปทรงของเครื่องยนต์ไอพ่น ในขณะที่แผงคอนโซล ประกอบด้วย แผงหน้าปัดคู่แลดูโดดเด่นและให้ความรู้สึกถึงความเป็นยนตรกรรมสปอร์ตด้วย ปุ่มควบคุมสีเงินและเข็มเกจวัดสีแดงเรียงตัวกัน จอแสดงผลอิสระขนาดใหญ่ที่ดึงดูดสายตา แห่งความชื่นชม อีกทั้งพวงมาลัยที่มีรูปแบบ 3 ก้านแหวกแนวและปุ่มควบคุมฟังก์ชัน 12 ปุ่ม ซึ่งจะช่วยให้ท่านสามารถควบคุมการทำงานต่างๆ ได้เต็มประสิทธิภาพแม้ในยามที่รถหยุดอยู่กับที่
และทันทีที่ท่านเข้าสู่ที่นั่งสไตล์สปอร์ตซึ่งจะสะท้อนให้เห็นมุมมองที่ดุดันของปุ่มควบคุมบนแผง หน้าปัด ท่านจะได้สัมผัสกับภายในยนตรกรรมนี้ที่กำลังเร่งเร้าให้ท่านต้องรีบสตาร์ตเครื่องยนต์
เครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ
เครื่องยนต์ 4 สูบที่มีความจุ 2.0 ลิตรซึ่งใช้เทคโนโลยีเครื่องยนต์ที่ก้าวหน้าและล้ำสมัย การฉีดเชื้อเพลิงโดยตรง การควบคุมวาล์วแบบปรับได้ และเทอร์โบชาร์จให้แรงบิดและ เอาท์พุทกำลังอันทรงประสิทธิภาพ ยิ่งไปกว่านั้น การสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิง การปล่อยก๊าซ ไอเสียและระดับเสียงรบกวนกลับลดลงอย่างมาก ฟังก์ชันการสตาร์ต/หยุดแบบประหยัดพลังงาน จะมีอยู่ในเครื่องยนต์ทุกประเภทไม่ว่าท่านจะขับขี่ด้วยระบบเกียร์ชนิดใดก็ตาม
ประสิทธิภาพสูงขึ้น: การฉีดเชื้อเพลิงโดยตรงแรงดันสูงผ่านหัวฉีดแบบเปียโซที่มีความแม่นยำและ กระบวนการเผาไหม้ที่ทำงานได้อย่างสมบูรณ์และมีประสิทธิภาพสูงยิ่งขึ้นซึ่งหมายความว่าน้ำมัน เชื้อเพลิงมีประสิทธิภาพการทำงานมากยิ่งขึ้น
เทคโนโลยีที่มีประสิทธิภาพสูงขึ้น: การควบคุมแบบปรับได้ส่งผลให้การจ่ายเชื้อเพลิงไปยังสูบ ดีเยี่ยม และด้วยเหตุนี้จึงประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงได้เนื่องจากน้ำหนักที่เบาขึ้น ความเสียดทาน ภายในเครื่องยนต์ต่ำบวกกับการควบคุมรถได้ตามความต้องการ
เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม: ฟังก์ชันการสตาร์ต/หยุดแบบประหยัดพลังงานที่เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน จะทำให้เครื่องยนต์ดับชั่วขณะหากรถหยุดอยู่กับที่ จึงเป็นการประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิง นอกจากนี้ จอแสดงผล ECO บนแผงหน้าปัดยังแสดงข้อมูลเกี่ยวกับประสิทธิภาพของรูปแบบการขับขี่ ของคนขับว่าเป็นอย่างไร โดยให้คำแนะนำคนขับในการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการขับขี่ จึงช่วยลด การสื้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงลงได้
ระบบส่งกำลัง
ระบบเกียร์แบบใหม่ได้มีการจัดวางระบบการส่งกำลังของเครื่องยนต์ขนาดกะทัดรัดรุ่นใหม่เอาไว้ อย่างสมบูรณ์แบบ โดยน้ำหนักที่เบาขึ้น สมรรถนะสูงและช่วงการเลื่อนเกียร์ที่สั้นจึงส่งผลให้ การเปลี่ยนเกียร์มีความรวดเร็ว ไม่ว่าความเร็วรอบเครื่องยนต์จะอยู่ที่ระดับใดก็ตาม
ระบบส่งกำลังด้วยคลัตช์คู่แบบ 7G-DCT ซึ่งถูกพัฒนาใหม่ขึ้นเป็นพิเศษสำหรับยนตรกรรมรุ่นคอมแพ็ค ที่มีความสะดวกสบาย ความเป็นสปอร์ตและประหยัดน้ำเชื้อเพลิงด้วยวิธีการที่แตกต่าง ไปอย่างสิ้นเชิง ระบบส่งกำลังอัตโนมัติแบบ 7G-DCT เป็นระบบส่งกำลังด้วยคลัตช์คู่แบบ 3 เพลา และเกียร์ 7 สปีดกับเกียร์ถอยหลัง ทั้งการทำงานของคลัตช์ัและการเปลี่ยนเกียร์จะเป็นไป โดยอัตโนมัติอย่างเต็มรูปแบบ ด้วยระบบส่งกำลังแบบคลัตช์คู่ จึงทำให้การเปลี่ยนเกียร์ขึ้นหรือลง มีความรวดเร็ว ซึ่งไม่มีการสูญเสียกำลังฉุดแม้แต่น้อย
เกียร์เดินหน้าแบบ 7 สปีด: ระบบส่งกำลังประกอบด้วยชุดเกียร์เสริม 2 ชุด ซึ่งแต่ละชุดจะมีคลัตช์ในตัวโดยทั้งการทำงานของคลัตช์และการเปลี่ยนเกียร์จะเป็นไปโดยอัตโนมัติอย่างเต็มรูปแบบ จึงทำให้การเปลี่ยนเกียร์เป็นไปอย่างราบรื่นโดยไม่มีการสูญเสียกำลังฉุดเลย
โหมดระบบส่งกำลัง 3 รูปแบบ: โปรแกรมการเปลี่ยนเกียร์แบบ “Economy”, “Sport” และ “Manual” ที่สามารถเลือกได้ล่วงหน้าโดยใช้สวิตช์บนคอนโซลกลาง โดยแต่ละตำแหน่ง จะมีลักษณะการเปลี่ยนเกียร์ และความเร็วที่แตกต่างกัน ในโหมด “Sport” เกียร์จะเปลี่ยนขึ้นขณะที่ ความเร็วรอบเครื่องยนต์สูงขึ้นเท่านั้น และจะเปลี่ยนลงเร็วกว่าปกติในโหมด “Economy” และในโหมด “Manual” คนขับที่มีรูปแบบการขับขี่แบบสปอร์ตจะสามารถเปลี่ยนเกียร์ได้ด้วยตัวเอง โดยใช้ปุ่มเปลี่ยนเกียร์ที่พวงมาลัย
การสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงลดลง: ฟังก์ชันการสตาร์ต/หยุดแบบประหยัดพลังงานจะดับเครื่องยนต์ขณะที่ติดไฟแดงและอยู่ในการจราจร ความสะดวกสบายและความปลอดภัยยิ่งขึ้น: ก้าน DIRECT SELECT ที่เอื้ออำนวยต่อการใช้งาน และระบบควบคุมความเร็วคงที่กับฟังก์ชันจำกัดความเร็ว (SPEEDTRONIC) ยังเป็นส่วนหนึ่ง ของระบบส่งกำลังด้วยคลัตช์คู่แบบ 7G-DCT
ช่วงล่าง-การยึดเกาะถนนเป็นเยี่ยม
เทคโนโลยีระบบรองรับล้ำสมัยที่นำมาใช้กับรุ่น CLA Coupé ใหม่จะพิสูจน์ให้เห็นถึงความเป็นผู้นำ ของท่าน ทั้งบนถนนในชนบทและมอเตอร์เวย์ ระบบรองรับที่สุดแสนประทับใจแม้ในขณะขับขี่ ด้วยความเร็วสูง ทั้งการควบคุมการหักเลี้ยวได้อย่างรวดเร็วและความสะดวกสบายเป็นเยี่ยม ตลอดการเดินทางไกล
ไม่ว่าจะเลือกใช้งานระบบใด ผู้ขับขี่ทุกท่านจะได้พบกับระบบรองรับที่ตรงตามความปรารถนา ทุกการขับขี่และนำหน้าเหนือคู่แข่ง ระบบรองรับแบบสปอร์ตจะมีคุณสมบัติของการดูดซับแรงกระแทกและรองรับน้ำหนักที่แน่นหนึบ อีกทั้งระบบรองรับแบบสปอร์ตจะเพิ่มความคล่องตัวในการเคลื่อนที่ของรถ โดยมีการติดตั้งมาจาก โรงงานให้กับรุ่นดังกล่าวนี้อย่างครบถ้วน
ความปลอดภัย
ขั้นที่ 1: ระบบความปลอดภัยขณะขับขี่
อุบัติเหตุส่วนใหญ่จะเริ่มต้นก่อนเกิดการชนปะทะ: เนื่องจากการเสียสมาธิในระหว่างขับรถ ทัศนวิสัยที่ไม่ชัดเจน หรืออันตรายอื่นๆ เป็นสิ่งที่ไม่สามารถคาดเดาได้ นั่นจึงเป็นเหตุผลหลักที่แนวคิดด้านความปลอดภัยของเมอร์เซเดส-เบนซ์ ประยุกต์ใช้วิธีการต่างๆ ที่ช่วยให้การขับขี่ในทุกๆ วันมีความปลอดภัยยิ่งขึ้น และช่วยให้สามารถควบคุมรถเมื่ออยู่ในสถานการณ์คับขันได้
- ไฟเบรกแบบกระพริบได้
- ATTENTION ASSIST
- ระบบควบคุมเสถียรภาพแบบอิเล็กทรอนิกส์ ESP®
- ไฟหน้าอัจฉริยะ
- กล้องแสดงภาพด้านหลัง
ขั้นที่ 2: ในสถานการณ์คับขัน
เมอร์เซเดส-เบนซ์ยึดมั่นในแนวคิด ยนตรกรรมแห่งปลอดภัย รถยนต์ของเมอร์เซเดส-เบนซ์จึงสามารถตอบสนองต่อผู้ขับขี่ได้เป็นอย่างดีแม้ในสถานการณ์คับขัน เพื่อให้ขับขี่ได้อย่างปลอดภัย และมั่นใจในทุกๆ เส้นทาง
- ระบบป้องกันล้อล็อกขณะเบรก (ABS)
- ระบบควบคุมการลื่นไหล (ASR)
- ระบบช่วยเบรก (BAS)
ขั้นที่ 3: ขณะเกิดอุบัติเหตุ
รถยนต์ของเมอร์เซเดส-เบนซ์ทุกคันมาพร้อมกับระบบความปลอดภัยเพื่อป้องกันอุบัติเหตุ อย่างไรก็ตาม เมื่อไม่สามารถหลีกเลี่ยงอุบัติเหตุได้ ระบบความปลอดภัยสำหรับผู้โดยสารจะทำงาน ซึ่งรวมถึงระบบปกป้องผู้โดยสารภายในรถและผู้ใช้ถนนท่านอื่นอีกด้วย
- ถุงลมนิรภัยด้านคนขับและผู้โดยสารด้านหน้า
- ระบบการรับรู้ที่นั่งเด็กอัตโนมัติที่ที่นั่งผู้โดยสารด้านหน้า
- ระบบยึดที่นั่งเด็กด้วย ISOFIX ที่เบาะหลัง
- ถุงลมนิรภัยด้านข้างสำหรับคนขับและผู้โดยสารด้านหน้า
- ถุงลมนิรภัยข้างของห้องโดยสารด้านหลัง ทั้งฝั่งซ้ายและขวา
- ถุงลมนิรภัยชนิดหน้าต่าง
ขั้นที่ 4 : หลังการเกิดอุบัติเหตุ
เพื่อลดความเสียหายที่ตามมาหลังจากเกิดอุบัติเหตุและการให้บริการช่วยเหลือ จะมีการดำเนินการต่างๆ ซึ่งกำหนดขึ้นจากประเภทและความรุนแรงของอุบัติเหตุ การให้บริการช่วยเหลือฉุกเฉินหลังจากเกิดอุบัติเหตุนี้คือหัวใจสำคัญของแนวคิดด้านความปลอดภัยของเมอร์เซเดส-เบนซ์
- การปกป้องที่เป็นเยี่ยม : เครื่องยนต์จะสามารถหยุดการทำงานเองโดยอัตโนมัติและสามารถตัดการจ่ายน้ำมันเชื้อเพลิงได้
- ระบบไฟส่องสว่างสะดุดตา : ไฟฉุกเฉินและไฟส่องสว่างภายในห้องโดยสารสามารถเปิดเองโดยอัตโนมัติเพื่อช่วยลดความเสี่ยงที่จะเกิดอุบัติเหตุซ้ำและช่วยแสดงตำแหน่งของรถยนต์
- ระบบล็อกประตูรถสามารถปลดล็อกได้เองโดยอัตโนมัติ
ข้อมูลทางเทคนิค
Engine and performance
|
CLA-Class 250 AMG Sport |
การจัดเรียงกระบอกสูบ/จำนวนกระบอกสูบ
|
4 / แถวเรียง
|
---|---|
ปริมาตรกระบอกสูบ (ซีซี)
|
1,991
|
แรงม้าสูงสุด (กิโลวัตต์ [แรงม้า] รอบต่อนาที)
|
155 (211) / 5,500
|
แรงบิดสูงสุด (นิวตันเมตร/รอบต่อนาที)
|
350/1,200-4,000
|
อัตราส่วนกำลังอัด
|
9.8 : 1
|
อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. (วินาที)
|
6.7
|
ความเร็วสูงสุด (กม./ชม.)
|
240
|
yes
|
|
มาตรฐานไอเสีย
|
ยูโร 5
|
Fuel and emissions
|
|
ความจุถังน้ำมัน/สำรอง (ลิตร)
|
50
|
อัตราสิ้นเปลืองน้ำมัน, ในเมือง (ลิตรต่อ100 กม.)
|
8.4
|
อัตราสิ้นเปลืองน้ำมัน, นอกเมือง (ลิตรต่อ100 กม.)
|
4.7-4.9
|
อัตราสิ้นเปลืองน้ำมันเฉลี่ย (ลิตรต่อ100 กม.)
|
6.1-6.2
|
ค่าเฉลี่ยคาร์บอนไดออกไซด์ (กรัมต่อกม.)
|
142-144
|
สัมปสิทธิ์แรงเสียดทาน
|
0.28
|
น้ำมันเบนซิน 95
|
|
Power transmission
|
|
ระบบส่งกำลัง
|
ขับเคลื่อนล้อหน้า
|
เกียร์
|
เกียร์อัตโนมัติ 7 เกียร์เดินหน้า 7G-DCT
|
อัตราทดเกียร์ธรรมดา
|
–
|
อัตราทดเกียร์อัตโนมัติ
|
3.86/ 2.43/ 2.67/ 1.05/ 0.78/ 1.05/ 0.84/ R1 3.38/ R2 –
|
อัตราทดเฟืองท้าย
|
4.13
|
Suspension and steering
|
|
ล้อหน้า
|
ระบบกันสะเทือนแบบแม็กเฟอร์สัน
|
ล้อหลัง
|
ระบบกันสะเทือนแบบโฟลิงค์ (แขนยึดสี่จุด)
|
ระบบกันสะเทือน, ด้านหน้า/ด้านหลัง
|
ระบบช่วงล่างแบบสปอร์ต
|
ขนาดยาง/หน้า
|
225 / 40 R18
|
ขนาดยาง/หลัง
|
225 / 40 R18
|
ระบบเบรกด้านหน้า
|
ดิสก์เบรก แบบมีครีบระบายความร้อน
|
ระบบเบรกด้านหลัง
|
ดิสก์เบรก
|
Quantity, dimensions & weights
|
|
น้ำหนักรถเปล่า (กก.) [2]
|
1,480/485
|
น้ำหนักรวม (กก.)
|
1,965
|
น้ำหนักบรรทุกสูงสุดบนหลังคา (กก.)
|
100
|
พื้นที่บรรทุกของ (ลิตร)
|
470
|
วงเลี้ยว (ม.)
|
11.0
|
น้ำหนักลากจูงสูงสุด (กก.)
|
740/1,500
|
One comment
Pingback: ราคารถยนต์ Mercedes-Benz 2014 C-Class E-Class A B CLA CLS E GL M S SLK | ราคารถใหม่ 2014-2015 รีวิวรถยนต์ Toyota Honda Nissan Ford Chevrolet